ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2024” เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย 4 ทีมที่ยังคงเหลืออยู่ในเส้นทางล่าแชมป์ ได้แก่ สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์
สเปน: ยูโร 2024 รอบ 4 ทีม
ทัพ “กระทิงดุ” ภายใต้การนำของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ โชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรอบก่อนรองชนะเลิศที่สามารถเอาชนะเจ้าภาพอย่างเยอรมนีได้อย่างสุดมัน ด้วยเกมรุกและรับที่ยอดเยี่ยม สเปนยิงไปแล้ว 11 ประตู และเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น
ฝรั่งเศส: ยูโร 2024 รอบ 4 ทีม
แม้จะยังไม่สามารถทำประตูจากโอเพ่นเพลย์ได้เลยในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ “ตราไก่” ของ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ก็ยังคงเป็นทีมที่น่ากลัว ด้วยเกมรับที่แข็งแกร่งเสียไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น
อังกฤษ: ยูโร 2024 รอบ 4 ทีม
ถึงแม้ฟอร์มการเล่นจะไม่หวือหวา แต่ด้วยความมุ่งมั่นและใจสู้ของนักเตะ “สิงโตคำราม” ก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้อีกครั้ง โดย แกเร็ธ เซาธ์เกต และลูกทีมหวังที่จะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกมาครองให้ได้
เนเธอร์แลนด์: ยูโร 2024 รอบ 4 ทีม
แม้จะออกสตาร์ทในรอบแบ่งกลุ่มได้ไม่สวยนัก แต่ “อัศวินสีส้ม” ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมัน ก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบน็อคเอาท์ โดยเฉพาะเกมรุกที่นำโดย โกดี้ คักโป ที่ทำไปแล้ว 3 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้
โปรแกรมรอบรองชนะเลิศ:ยูโร 2024
- คืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567, เวลา 02.00 น: สเปน พบ ฝรั่งเศส
- คืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567, เวลา 02.00 น.: เนเธอร์แลนด์ พบ อังกฤษ
แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยที่จะชมเกมการแข่งขันในรอบตัดเชือกที่จะเป็นการวัดกันระหว่างทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป เพื่อหาผู้ที่จะได้เข้าไปชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศต่อไป
ยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ: ศึกแห่งศักดิ์ศรีและความหวัง
การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศของยูโร 2024 นับเป็นการพบกันของทีมยักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรป ซึ่งแต่ละทีมต่างมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกันออกไป
สเปน vs ฝรั่งเศส: ยูโร 2024 รอบรอง
การเจอกันของสองทีมที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สเปนขึ้นชื่อเรื่องเกมรุกที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ขณะที่ฝรั่งเศสเน้นเกมรับที่เหนียวแน่นและการโต้กลับที่รวดเร็ว เกมนี้จึงเป็นการวัดกันระหว่างดาบกับโล่ ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
เนเธอร์แลนด์ vs อังกฤษ: ยูโร 2024 รอบรอง
ยูโร 2024 เป็นการพบกันของสองทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการแข่งขันฟุตบอล ทั้งสองทีมต่างมีเกมรุกที่ดุดันและนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามอง เกมนี้จึงคาดว่าจะเป็นเกมที่เปิดแลกกันอย่างสนุก และอาจต้องตัดสินกันด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
นอกจากศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจแล้ว เป้าหมายสูงสุดของทั้ง 4 ทีมคือการคว้าแชมป์ยุโรปมาครองให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอังกฤษ ที่ยังไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ยุโรปมาก่อน และเนเธอร์แลนด์ ที่ห่างหายจากแชมป์ไปนานกว่า 3 ทศวรรษ
แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยที่จะชมเกมการแข่งขันในรอบตัดเชือกที่จะเป็นการวัดกันระหว่างทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป เพื่อหาผู้ที่จะได้เข้าไปชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศต่อไป และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลยุโรป
อ้างอิงข่าวจาก
https://www.siamsport.co.th/football-euro/56367/